หมวดหมู่ของบทความนี้จะเกี่ยวกับพระ ขี่ ม้า บิณฑบาต ร หากคุณกำลังเรียนรู้เกี่ยวกับพระ ขี่ ม้า บิณฑบาต รมาสำรวจกันกับlaperlarural.comในหัวข้อพระ ขี่ ม้า บิณฑบาต รในโพสต์พระขี่ม้า l ออกอากาศ 9 กุมภาพันธ์ 2563นี้.

Table of Contents

สรุปสาระสำคัญของข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับพระ ขี่ ม้า บิณฑบาต รในที่สุดสมบูรณ์พระขี่ม้า l ออกอากาศ 9 กุมภาพันธ์ 2563

ดูตอนนี้วิดีโอด้านล่าง

ที่เว็บไซต์Casa Rural La Perlaคุณสามารถอัปเดตเนื้อหาอื่น ๆ นอกเหนือจากพระ ขี่ ม้า บิณฑบาต รเพื่อรับความรู้เพิ่มคุณค่าให้กับคุณ ที่เว็บไซต์CasaRuralLaPerla เราอัปเดตข้อมูลใหม่ๆ ที่ถูกต้องให้คุณอย่างต่อเนื่องทุกวัน, ด้วยความหวังที่จะให้บริการเนื้อหาที่ดีที่สุดสำหรับคุณ ช่วยให้คุณอัพเดทข่าวสารออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว.

Read More  สลักเพชร เกาะช้างใต้ไม่ได้มีแค่ทะเล | Viewfinder ลุยทั่วทิศมิตรทั่วไทย EP.36 | สรุปข้อมูลโดยละเอียดที่สุดเกี่ยวกับอ่าวสลักเพชร

เนื้อหาบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับหมวดหมู่พระ ขี่ ม้า บิณฑบาต ร

ย้อนรอยเรื่องจริง เรื่องแปลก สำนักสงฆ์ถ้ำอาชาทอง บนดอยสูง พระต้องขี่ม้าออกบิณฑบาต เซอร์ไพรส์คนดู #เรื่องจริงผ่านจอ #เรื่องจริงผ่านจอล่าสุด #เรื่องจริงผ่านจอย้อนหลัง

รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อของพระ ขี่ ม้า บิณฑบาต ร

พระขี่ม้า l ออกอากาศ 9 กุมภาพันธ์ 2563
พระขี่ม้า l ออกอากาศ 9 กุมภาพันธ์ 2563

Read More  3 นาทีรู้เรื่อง : เกาะเกร็ด One Day Trip ตะลุยเที่ยว ตะลุยกินรอบเกาะ 1 วันเต็ม! | เนื้อหาทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเกาะ เกร็ด pantip วัน ธรรมดาเพิ่งได้รับการอัปเดต

นอกจากอ่านข่าวเกี่ยวกับบทความนี้แล้ว พระขี่ม้า l ออกอากาศ 9 กุมภาพันธ์ 2563 สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ด้านล่าง

คลิกที่นี่เพื่อดูข้อมูลใหม่เพิ่มเติม

คำแนะนำที่เกี่ยวข้องกับพระ ขี่ ม้า บิณฑบาต ร

#พระขมา #ออกอากาศ #กมภาพนธ.

เรื่องจริงผ่านจอ,เรื่องจริงผ่านจอล่าสุด,เรื่องจริงผ่านจอย้อนหลัง.

พระขี่ม้า l ออกอากาศ 9 กุมภาพันธ์ 2563.

พระ ขี่ ม้า บิณฑบาต ร.

เราหวังว่าคุณค่าที่เรามอบให้จะเป็นประโยชน์กับคุณ ขอขอบคุณที่อ่านเนื้อหาพระ ขี่ ม้า บิณฑบาต รของเรา

49 thoughts on “พระขี่ม้า l ออกอากาศ 9 กุมภาพันธ์ 2563 | เนื้อหาที่เกี่ยวข้องพระ ขี่ ม้า บิณฑบาต รที่มีรายละเอียดมากที่สุดทั้งหมด

  1. Veera Dechponkung says:

    อิๆผมเป็นเด็กนักเรียนป.1กำลังหัดเขียนก.ไก่ บนกระดานชนวน เห็นหลวงพ่อคุณขี่ม้า เทศ ตัวใหญ่คือม้าแข่งนั้นแหระครับผ่ามมาท่านจะไปอำเภอ เห็นคนรูใหญ่ เรียกหลวงพ่อคูณว่า พระจะไปไหน นิมนต์ฉันน้ำก่อน หลวงพ่อคูณตอบว่า จะไปอำเภอโยม โยนคนนั้นก็คือครู จั่น หรือประสิทธิ์ จันทร์พล หรือลุงจั่นของหลานๆร.ร.บ้านนอกๆที่เรียนศาลาวัดยกพื้นสูงชั้นเดียว ทรงกลม หรือจัตุรัส เวลาขึ้นม้าเวลาลงม้าหลวงพ่อตัวเล็กจะต้องเอาม้าไปเทียบบริเวณหน้าบันไดศาลา คล้ายโป๊ะเรือที่ยื่นออกมาตรงบันได้สองข้าง จึงจะลงจากหลังม้าได้นะครับ

  2. Veera Dechponkung says:

    ไม่ได้ห้ามให้พระขี่ม้า นะครับ นึกถึงหลักความจริงบ้างดิ สมัยก่อนไม่มีรถยนต์ เครื่องบิน จากวัดไปจังหวัด จากวัดไปอำเภอ ละครับกี่กิโล

  3. Man 567 says:

    เป็นภาพที่หาดูยาก แต่ก็ไม่อยากดู ต้องระวังว่าไม่ได้อยู่ในสนามม้านางเลิ้งก็แล้วกัน เดี๋ยวนี้เลิกไปแล้ว ถ้าจะให้ดีต้องฝึกข้ามสิ่งกีดขวางด้วย เผื่อว่าจำเป็น ผมเล่นตัวหน้าสองหนึ่ง

  4. สมถวิล งามศิริ says:

    แปลกตาจริงเนาะแต่สงสารพระสงสารม้าด้วยลำบากกันจริงๆน้อด้วยแรงศรัทธาอันสูงถึงพยายามต่อสู้ความลำบากขออนุโมทนาสาธุในบญกุศลที่ทุกท่านได้ปฏิบัติดีๆสาธุ้ค่ะ

  5. อนนท์ ทองเทพ says:

    พระขี่ม้าไม่ผิดศีลธรรม
    เพราะจำเป็นมันไกลอยู่บนเขา

    แต่พระขับรถยนต์ผิดศีลธรรม
    อยากขับไปไหนก็ขับ ไม่มี
    คนเห็นว่าพระขับมองไม่เห็น
    ว่ามีใครบ้างนี่แหละผิด

  6. ประทีป หงษ์สามสิบเจ็ด says:

    เจ้าชายสิทธัตถะออกบวชก็ทรงขี่ม้าชื่อกัณฑกะข้ามแม่น้ำอโนมา ประเพณีบรรพชาอุปสมบทตามประเพณีไทยก็นิยมให้นาคขี่ม้าไปบวชที่วัดซึ่งถือว่าม้าเป็นสัตว์ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา.อนุโมทนาสาธุ… เจริญพร

  7. korn Panom says:

    >>>>>ห้ามภิกษุ-ภิกษุณีสามเณร….[หัดขี่ช้างบ้าง…หัดขี่ม้าบ้าง… หัดขับรถบ้าง]
    ….พระพุทธเจ้าทรงติเตียน<<<<<

    ******พระพุทธองค์ทรงตำหนิ…. ความประพฤติไม่เหมาะสม… เหล่านี้ ของภิกษุพวกพระอัสสชี… และพระปุนัพพสุกะ….[สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑๓]

    ******พระพุทธเจ้าทรงติเตียน….พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า… ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การกระทำของ…ภิกษุโมฆบุรุษเหล่านั่น… นั่นไม่เหมาะ ไม่สม ไม่ควร ไม่ใช่กิจของสมณะ ใช้ไม่ได้ ไม่ควรทำ.

    [จากพระไตรปิฏก มหามกุฏราชวิทยาลัย ชุด ๙๑ เล่ม ม.ม.ร]

    >>>>>>พระพุทธเจ้าทรงติเตียน…..พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า<<<<<<

    *****[พระพุทธเจ้าตรัส].…ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การกระทำของภิกษุโมฆบุรุษเหล่านั่นนั่น… ไม่เหมาะ… ไม่สม ไม่ควร ไม่ใช่กิจของสมณะ… ใช้ไม่ได้… ไม่ควรทำ.

    *****[พระพุทธเจ้าตรัส]…ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไฉนภิกษุโมฆบุรุษเหล่านั้น….จึงได้ประพฤติอนาจารเห็นปานดังนี้ คือ….[ปลูกต้นไม้ดอกเองบ้าง]… ใช้ให้ผู้อื่นปลูกเองบ้าง… [รดน้ำเองบ้าง] …ใช้ให้ผู้อื่นรดบ้าง… [หัดขี่ช้างบ้าง…หัดขี่ม้าบ้าง… หัดขับรถบ้าง]

    >>>>>[สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑๓]

    [จากพระไตรปิฏกเล่มสีน้ำเงิน เล่ม3 หน้า616 บรรทัด5]

    [จากพระไตรปิฏกเล่มสีแดง เล่ม3 หน้า582 บรรทัด13]

    http://www.tripitaka91.com/3-616-5.html#middle

    http://www.tripitaka91.com/3-616-5.html

    http://www.tripitaka91.com/3-614-10.html#middle

    http://www.tripitaka91.com/91book/book03/601_650.htm#614

    http://www.tripitaka91.com

  8. korn Panom says:

    >>>>>ห้ามภิกษุ-ภิกษุณีสามเณร….[หัดขี่ช้างบ้าง…หัดขี่ม้าบ้าง… หัดขับรถบ้าง]
    ….พระพุทธเจ้าทรงติเตียน<<<<<

    ******พระพุทธองค์ทรงตำหนิ…. ความประพฤติไม่เหมาะสม… เหล่านี้ ของภิกษุพวกพระอัสสชี… และพระปุนัพพสุกะ….[สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑๓]

    ******พระพุทธเจ้าทรงติเตียน….พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า… ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การกระทำของ…ภิกษุโมฆบุรุษเหล่านั่น… นั่นไม่เหมาะ ไม่สม ไม่ควร ไม่ใช่กิจของสมณะ ใช้ไม่ได้ ไม่ควรทำ.

    [จากพระไตรปิฏก มหามกุฏราชวิทยาลัย ชุด ๙๑ เล่ม ม.ม.ร]

    >>>>>>พระพุทธเจ้าทรงติเตียน…..พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า<<<<<<

    *****[พระพุทธเจ้าตรัส].…ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การกระทำของภิกษุโมฆบุรุษเหล่านั่นนั่น… ไม่เหมาะ… ไม่สม ไม่ควร ไม่ใช่กิจของสมณะ… ใช้ไม่ได้… ไม่ควรทำ.

    *****[พระพุทธเจ้าตรัส]…ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไฉนภิกษุโมฆบุรุษเหล่านั้น….จึงได้ประพฤติอนาจารเห็นปานดังนี้ คือ….[ปลูกต้นไม้ดอกเองบ้าง]… ใช้ให้ผู้อื่นปลูกเองบ้าง… [รดน้ำเองบ้าง] …ใช้ให้ผู้อื่นรดบ้าง… [หัดขี่ช้างบ้าง…หัดขี่ม้าบ้าง… หัดขับรถบ้าง]

    >>>>>[สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑๓]

    [จากพระไตรปิฏกเล่มสีน้ำเงิน เล่ม3 หน้า616 บรรทัด5]

    [จากพระไตรปิฏกเล่มสีแดง เล่ม3 หน้า582 บรรทัด13]

    http://www.tripitaka91.com/3-616-5.html#middle

    http://www.tripitaka91.com/3-616-5.html

    http://www.tripitaka91.com/3-614-10.html#middle

    http://www.tripitaka91.com/91book/book03/601_650.htm#614

    http://www.tripitaka91.com

  9. korn Panom says:

    >>>>>ห้ามภิกษุ-ภิกษุณีสามเณร….[หัดขี่ช้างบ้าง…หัดขี่ม้าบ้าง… หัดขับรถบ้าง]
    ….พระพุทธเจ้าทรงติเตียน<<<<<

    ******พระพุทธองค์ทรงตำหนิ…. ความประพฤติไม่เหมาะสม… เหล่านี้ ของภิกษุพวกพระอัสสชี… และพระปุนัพพสุกะ….[สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑๓]

    ******พระพุทธเจ้าทรงติเตียน….พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า… ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การกระทำของ…ภิกษุโมฆบุรุษเหล่านั่น… นั่นไม่เหมาะ ไม่สม ไม่ควร ไม่ใช่กิจของสมณะ ใช้ไม่ได้ ไม่ควรทำ.

    [จากพระไตรปิฏก มหามกุฏราชวิทยาลัย ชุด ๙๑ เล่ม ม.ม.ร]

    >>>>>>พระพุทธเจ้าทรงติเตียน…..พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า<<<<<<

    *****[พระพุทธเจ้าตรัส].…ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การกระทำของภิกษุโมฆบุรุษเหล่านั่นนั่น… ไม่เหมาะ… ไม่สม ไม่ควร ไม่ใช่กิจของสมณะ… ใช้ไม่ได้… ไม่ควรทำ.

    *****[พระพุทธเจ้าตรัส]…ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไฉนภิกษุโมฆบุรุษเหล่านั้น….จึงได้ประพฤติอนาจารเห็นปานดังนี้ คือ….[ปลูกต้นไม้ดอกเองบ้าง]… ใช้ให้ผู้อื่นปลูกเองบ้าง… [รดน้ำเองบ้าง] …ใช้ให้ผู้อื่นรดบ้าง… [หัดขี่ช้างบ้าง…หัดขี่ม้าบ้าง… หัดขับรถบ้าง]

    >>>>>[สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๑๓]

    [จากพระไตรปิฏกเล่มสีน้ำเงิน เล่ม3 หน้า616 บรรทัด5]

    [จากพระไตรปิฏกเล่มสีแดง เล่ม3 หน้า582 บรรทัด13]

    http://www.tripitaka91.com/3-616-5.html#middle

    http://www.tripitaka91.com/3-616-5.html

    http://www.tripitaka91.com/3-614-10.html#middle

    http://www.tripitaka91.com/91book/book03/601_650.htm#614

    http://www.tripitaka91.com

  10. สิวลี ศีตะจิตต์ says:

    เกษรเสกธีระ95ถนนหลังสวนตำบลขันเงินอำเภอหลังสวนจังหวััดชุมพร

  11. สมัย จังอินทร์ says:

    ทา่ทานไม่ขีม้าลงมาท่านคงไม่มีอะไรฉันแน่เลยเจ้าคะลกูขอสาธุสาธุสาธุบุญเจ้าคะสาธุ

  12. สมัย จังอินทร์ says:

    ฉันเขาใจเจ้าคะยากไปกราบมากๆเลยเจ้าคะสาธุสาธุสาธุ

  13. Vilai Kraisornkovit says:

    ท่านอาจารย์ปรับตัวเองให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี That’s good idea 👍🙏🏻🙏🏻🙏🏻

  14. Sutthi playano says:

    เผยแผ่ศาสนาด้วย ทำลายพระศาสนาด้วย เพราะพระวินัยท่านห้ามพระขึ้นยานที่เทียมด้วยสัตว์มีชีวิตยกเว้นอาพาธ ถ้าเคารพพระพุทธเจ้าจริงต้องไม่ทำผิดพระวินัย

  15. อําพล คําภาเคน says:

    ผู้กำจัดสัตว์อื่นอยู่ไม่ชื่อว่าเป็นบรรชิตเลย ผู้ทำสัตว์อื่นให้ลำบากอยู่ไม่ชื่อว่าเป็น สมณะ เลย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *